ใบรางจืดสด Organic100% คละไซด์
สรรพคุณของรางจืด
อ้างอิงจาก https://stri.cmu.ac.th/article_detail.php?id=65
บทความวิจัย Cr: ดร.นิตยา บุญทิม
1 .ใบ รากและเถา สามารถนำมาใช้ประโยชน์ในหลายลักษณะ เช่น นำมา ตากให้แห้งและบดบรรจุในแคปซูล นำมาต้มกับน้ำดื่ม หรือนำมาทำเป็นชาชงดื่ม
2.ใช้ใบหรือเถาสดประมาณ 10-15 ใบ หรือนำเถาขนาด 10 เซนติเมตร มา ต้มในน้ำประมาณ 10 ลิตร ต้มน้ำอาบแก้โรคผิวหนัง ลดอาการแพ้ ผดผื่นคัน โดยใช้อาบทุกวัน เป็นเวลา 5-7 วัน
3.ใบรางจืดตากแห้งแล้วนำมาบดให้ละเอียดใช้ผสมอาหารหมู อาหารไก่ จะช่วยเสริมภูมิต้านทานต่อโรค และช่วยรักษาให้สัตว์มีอัตราการรอดสูงขึ้นเมื่อเป็นโรค
4.ทุกส่วนของต้นรางจืดมีสารต้านอนุมูลอิสระสามารถออกฤทธิ์กำจัดสาร ตั้งต้นของเซลล์มะเร็ง ดังนั้นจึงช่วยต้านการเกิดเซลล์มะเร็งและลดจำนวนเซลล์มะเร็ง นอกจากนี้ยังช่วยชะลอความเสื่อมของเซลล์ ช่วยป้องกันเซลล์จากสารพิษ ทำให้ผิวสดใส ผิวพรรณเต่งตึงและช่วยต้านการแก่
5.นำทุกส่วนมาต้มดื่ม ใช้แก้พิษ ยาเบื่อ ทำลายและกำจัดสารพิษ
6.นำทุกส่วนของรางจืดมาตำหรือบดผสมน้ำ ใช้พอกแผล ระงับอาการปวด ลดอาการบวม และกำจัดพิษจากสัตว์ต่อย เช่น งูกัด แมงป่อง ตะขาบ แมงดาทะเล
ทุกส่วนของรางจืดช่วยลดและกำจัดสารพิษของเห็ดพิษทำให้บรรเทา อาการจากพิษเห็ดและรักษาพิษจากเห็ดพิษ
7.ทุกส่วนออกฤทธิ์ต้านการอักเสบเพิ่มประสิทธิภาพการรักษาแผล เช่น รักษาไวรัสเริม อีสุกอีใสและงูสวัด ด้วยการบดผมน้ำเล็กน้อย ก่อนนำไปประคบบริเวณรอยแผลเริม
8.นำมาต้มน้ำดื่มแก้อาการร้อนใน แก้กระหายน้ำ แก้อาการเมาค้าง ดังนั้นจึงสามารถใช้บำบัดผู้ป่วยที่มีอาการติดสุราเรื้อรัง
9.นำมาต้มดื่มแก่อาการติดบุหรี่
10.ช่วยขับปัสสาวะและทำให้อยากอาหาร นอกจากนี้ยังช่วยบรรเทา อาการท้องเสียเนื่องจากอาหารเป็นพิษ
11.ช่วยปกป้องเซลล์ตับและไตจากพิษของสารเคมี
12.รักษาโรคไข้หวัด รักษาโรคติดเชื้อในกระแสเลือด สามารถต้านและ กำจัดเชื้อโรคบางชนิดในกระแสเลือด
13.ช่วยลดความดันโลหิต ปรับระดับความดันของหัวใจให้เป็นปกติ
14.ช่วยลดระดับน้ำตาลในเลือด ป้องกันไขมันอุดตันและความเสี่ยงของ โรคหัวใจ
15.ช่วยกระตุ้นระบบควบคุมความดันของหัวใจให้เป็นปกติ ป้องกันการ เกิดโรคหลอดเลือดในสมอง
16.ปรับประจำเดือนให้มาปกติ สำหรับหญิงที่คลอดบุตรใหม่ ใช้สำหรับ ต้มดื่มขับน้ำคาวปลา ช่วยฟื้นฟูร่างกายให้กลับสภาพเดิมโดยเร็ว
ข้อควรระวัง
ข้อควรระวังที่ผู้ใช้ต้องรู้คือเนื่องจากรางจืดเป็นสมุนไพรเดี่ยวจึงไม่เหมาะ สำหรับกินต่อเนื่องกันเป็นระยะเวลานานเพราะอาจมีผลกับตับ ไต และระบบเลือด อย่างไรก็ตามพืชสมุนไพรชนิดนี้มีประโยชน์มากมายมหาศาลหากปลูกไว้ตามบ้านก็เหมือนมียาที่รักษาได้สารพัดโรค
(4.82)
(4.41)